- 1. เพื่อการสอบแบบตัวต่อตัว 2. เพื่อฝึกทักษะต่าง ๆ ในการเรียน 3. เพื่อการสาธิต 4. เพื่อการเล่นเกมและสถานการณ์จำลอง 5. เพื่อสอนงานด้านการเขียน 6. เพื่อการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนการสอน 7. เพื่อช่วยผู้เรียนที่มีปัญหาเฉพาะตัว
วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2553
บทบาทของคอมพิวเตอร์ในสังคมสารนิเทศ
ข้อระวังในการใช้คอมพิวเตอร์
การปิดและเปิดเครื่องเครื่องใหม่ควรห่างกันอย่างน้อย ๒๐ วินาที. อย่าใช้คอมฯในขณะมี
ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า หรือมีระบบไฟไม่ปกติ และเมื่อปิดเครื่องแล้วควรถอดปลั๊กไฟออก(สาย
โทรศัพท์ที่ต่อเข้าโมเด็มด้วย) ไม่ควรเปิด-ปิดเครื่องบ่อยๆ ถ้าจำเป็นต้องใช้บ่อยๆให้ใช้โปรแกรมรักษาหน้าจอ(screen sever) และตั้งค่าการประหยัดพลังงานแทน โดยให้คลิกขวาที่ว่างๆบน Desk top และเลือก Screen saver (การรักษาหน้าจอ) แล้วก็ตั้งเวลาและลักษณะได้ตามต้องการว่าจะให้จอภาพเกิด screen sever ภายในกี่นาที ถ้าไม่ได้ใช้งานติดต่อกัน แต่ถ้าจะตั้งให้จอภาพปิด หรือ จะปิดการทำงานของ Hard disk ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ ก็ให้คลิกต่อที่ Energy แล้วก็เลือกเวลาที่จะให้จอปิด, เวลาที่จะให้เครื่องเตรียมพร้อม, และเวลาที่จะให้ให้ปิด Hard disk เมื่อเครื่องไม่ได้ถูกใช้งานนานๆ แล้วก็คลิก Apply และ OK
อธิบาย
ถ้าใช้คอมพิวเตอร์คณะฟ้าร้องฟ้าผ่าจะทำให้เกิดอันตรายกับเครื่องคอมพิวเตอร์เเละคนได้
เเละไม่ควรเปิดปิดคอมพิวเตอร์บ่อยๆถ้าไม่จำเป็นอาจจะทำให้ข้อมูลบางอย่างเสียหายได้
ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า หรือมีระบบไฟไม่ปกติ และเมื่อปิดเครื่องแล้วควรถอดปลั๊กไฟออก(สาย
โทรศัพท์ที่ต่อเข้าโมเด็มด้วย) ไม่ควรเปิด-ปิดเครื่องบ่อยๆ ถ้าจำเป็นต้องใช้บ่อยๆให้ใช้โปรแกรมรักษาหน้าจอ(screen sever) และตั้งค่าการประหยัดพลังงานแทน โดยให้คลิกขวาที่ว่างๆบน Desk top และเลือก Screen saver (การรักษาหน้าจอ) แล้วก็ตั้งเวลาและลักษณะได้ตามต้องการว่าจะให้จอภาพเกิด screen sever ภายในกี่นาที ถ้าไม่ได้ใช้งานติดต่อกัน แต่ถ้าจะตั้งให้จอภาพปิด หรือ จะปิดการทำงานของ Hard disk ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ ก็ให้คลิกต่อที่ Energy แล้วก็เลือกเวลาที่จะให้จอปิด, เวลาที่จะให้เครื่องเตรียมพร้อม, และเวลาที่จะให้ให้ปิด Hard disk เมื่อเครื่องไม่ได้ถูกใช้งานนานๆ แล้วก็คลิก Apply และ OK
อธิบาย
ถ้าใช้คอมพิวเตอร์คณะฟ้าร้องฟ้าผ่าจะทำให้เกิดอันตรายกับเครื่องคอมพิวเตอร์เเละคนได้
เเละไม่ควรเปิดปิดคอมพิวเตอร์บ่อยๆถ้าไม่จำเป็นอาจจะทำให้ข้อมูลบางอย่างเสียหายได้
ความหมายของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์มาจากภาษาละตินว่า Computare ซึ่งหมายถึง การนับ หรือ การคำนวณ พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ให้ความหมายของคอมพิวเตอร์ไว้ว่า "เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ทำหน้าที่เหมือนสมองกล ใช้สำหรับแก้ปัญหาต่างๆ
ที่ง่ายและซับซ้อนโดยวิธีทางคณิตศาสตร์"
คอมพิวเตอร์จึงเป็นเครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ทำงานแทนมนุษย์ ในด้านการคิดคำนวณและสามารถจำข้อมูล ทั้งตัวเลขและตัวอักษรได้เพื่อการเรียกใช้งานในครั้งต่อไป นอกจากนี้ ยังสามารถจัดการกับสัญลักษณ์ได้ด้วยความเร็วสูง โดยปฏิบัติตามขั้นตอนของโปรแกรม คอมพิวเตอร์ยังมีความสามารถในด้านต่างๆ อีกมาก อาทิเช่น การเปรียบเทียบทางตรรกศาสตร์ การรับส่งข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลในตัวเครื่องและสามารถประมวลผลจากข้อมูลต่างๆ ได้
ที่ง่ายและซับซ้อนโดยวิธีทางคณิตศาสตร์"
คอมพิวเตอร์จึงเป็นเครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ทำงานแทนมนุษย์ ในด้านการคิดคำนวณและสามารถจำข้อมูล ทั้งตัวเลขและตัวอักษรได้เพื่อการเรียกใช้งานในครั้งต่อไป นอกจากนี้ ยังสามารถจัดการกับสัญลักษณ์ได้ด้วยความเร็วสูง โดยปฏิบัติตามขั้นตอนของโปรแกรม คอมพิวเตอร์ยังมีความสามารถในด้านต่างๆ อีกมาก อาทิเช่น การเปรียบเทียบทางตรรกศาสตร์ การรับส่งข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลในตัวเครื่องและสามารถประมวลผลจากข้อมูลต่างๆ ได้
คอมพิวเตอร์มีความสำคัญต่อโลกปัจจุบันอย่างไร
ยุคปัจจุบัน คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตคนเรามากมาย แทบจะเรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่ 5,6,7 เลยทีเดียว สำหรับคนที่เคยทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อยู่เป็นประจำแล้ว หากวันใดวันหนึ่งขาดมันไปเสีย เหมือนกับชีวิตขาดอะไรไปซักอย่าง คอมพิวเตอร์มีบทบาทกับเราในแทบจะทุกๆ ด้าน อย่างเช่นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันก็ได้หลักการทำงานหรือซอฟแวร์ข้างในเป็นรูปแบบสมองกลควบคุมการทำงานแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ทีวี ตู้เย็น รถยนต์ ตู้เอทีเอ็ม โทรศัพท์มือถือ พีดีเอ ฯลฯ ซึ่งทำให้เราสะดวกสบายมากขึ้น
ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยต่างก็ให้ความสำคัญกับการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์เพิ่มมากขึ้น โรงเรียนต่างๆ ก็บรรจุหลักสูตรคอมพิวเตอร์เป็นหลักสูตรพื้นฐานสำหรับทุกชั้นเรียนไปแล้ว ยิ่งสมัยนี้เริ่มเรียนกันตั้งชั้นประถมเพื่อให้ทันกับยุคไอทีในปัจจุบัน การทำงานต่างๆ ก็ได้คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทในการทำงานแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการงานเอกสาร การคำนวณ รวมถึงงานต่างๆ ในทุกสาขาอาชีพ เช่นการออกแบบด้านสถาปัตยกรรม วิศวกร ระบบอุตสาหกรรมโรงงาน การแพทย์ โปรแกรมเมอร์ เว็บไซด์ ฯลฯ ต่างก็ต้องอาศัยคอมพิวเตอร์ในการทำงานแทบทั้งสิ้น จะเห็นได้ว่าคอมพิวเตอร์มีความสำคัญกับคนทุกคนทุกและทุกสาขาอาชีพ
ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยต่างก็ให้ความสำคัญกับการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์เพิ่มมากขึ้น โรงเรียนต่างๆ ก็บรรจุหลักสูตรคอมพิวเตอร์เป็นหลักสูตรพื้นฐานสำหรับทุกชั้นเรียนไปแล้ว ยิ่งสมัยนี้เริ่มเรียนกันตั้งชั้นประถมเพื่อให้ทันกับยุคไอทีในปัจจุบัน การทำงานต่างๆ ก็ได้คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทในการทำงานแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการงานเอกสาร การคำนวณ รวมถึงงานต่างๆ ในทุกสาขาอาชีพ เช่นการออกแบบด้านสถาปัตยกรรม วิศวกร ระบบอุตสาหกรรมโรงงาน การแพทย์ โปรแกรมเมอร์ เว็บไซด์ ฯลฯ ต่างก็ต้องอาศัยคอมพิวเตอร์ในการทำงานแทบทั้งสิ้น จะเห็นได้ว่าคอมพิวเตอร์มีความสำคัญกับคนทุกคนทุกและทุกสาขาอาชีพ
ในปัจจุบันมีสถาบันอบรมคอมพิวเตอร์มากมายหลายแห่ง ให้ผู้เรียนเพิ่มทักษะให้กับตนเองในการใช้งานคอมพิวเตอร์ เริ่มตั้งแต่เบื้องต้นสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์มาก่อนเลย จนถึงหลักสูตรที่สอนการใช้งานโปรแกรมต่างๆ ตามสาขาอาชีพและความสนใจของแต่ละคน ทำให้เกิดความก้าวหน้าในวงการการเรียนการสอนของประเทศไทย พัฒนาผู้เรียนและผู้สอนให้ก้าวทันเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ให้สามารถใช้ความสามารถของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
วันพุธที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2553
บทบาทและประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
ปัจจุบันคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตประจำวันในด้านต่าง ๆ มากมาย
คอมพิวเตอร์ได้นำไปใช้ในอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านเรือน เช่น เครื่องซักผ้า โทรทัศน์ โทรศัพท์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดก็คือ การใช้ในการพิมพ์เอกสารต่างๆ เช่น พิมพ์จดหมาย รายงาน
เอกสารต่างๆ โดยสรุปคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทกับวิถีชิวิตในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1.
ข้อมูลข่าวสารความรู้ประกอบการเรียนการสอนจากอินเตอร์เน็ต นอกจากนี้ครู อาจารย์ยังใช้คอมพิวเตอร์
เป็นเครื่องมือในการจัดการเรียนการสอน เช่น ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
ค้นคว้าเพิ่มเติม หรือเพิ่มพูนประสบการณ์ให้แก่นักศึกษา ใช้คอมพิวเตอร์สอนภาษา เป็นต้น
นอกจากนี้เนื้อหาด้านคอมพิวเตอร์ ยังเป็นเนื้อหาหนึ่งที่ใช้ในการเรียนการสอนในหลักสูตรอีกด้วย
สำหรับผู้บริหารสถานศึกษาก็ใช้คอมพิวเตอร์ในการเก็บรวบรวมข้อมูล และใช้ประกอบ
การตัดสินใจในการบริหารจัดการ เช่น ใช้คอมพิวเตอร์จัดทำทะเบียนนักศึกษา ใช้งานด้านบุคลากร
ด้านการเงิน เป็นต้น
การศึกษา มีการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ เช่น การค้นหา(CAI) เพื่อให้นักศึกษา 2.
ในการทำบัญชี งานประมวลคำและติดต่อกับหน่วยงานภายนอกผ่านระบบโทรคมนาคม นอกจากนี้
งานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ก็ใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยในการควบคุมการผลิต และการประกอบชิ้นส่วน
ของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น โรงงานประกอบรถยนต์ ซึ่งทำให้การผลิตมีคุณภาพดีขึ้น หรืองานธนาคาร
ที่ให้บริการถอนเงินผ่านตู้ฝากถอนเงินอัตโนมัติ
และการโอนเงินระหว่างบัญชี เชื่อมโยงกันเป็นระบบเครือข่าย
งานธุรกิจ เช่น บริษัท ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ตลอดจนโรงงานต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์( ATM ) และใช้คอมพิวเตอร์ คิดดอกเบี้ยให้กับผู้ฝากเงิน 3.
ของการคำนวณที่ค่อนข้างซับซ้อน เช่น งานศึกษาโมเลกุลสารเคมี วิถีการโคจรของโลก การส่งจรวด
ไปสู่อวกาศ หรืองานทะเบียน การเงิน สถิติ และเป็นอุปกรณ์สำหรับการตรวจรักษาโรคได้ ซึ่งจะให้ผล
ที่แม่นยำกว่าการตรวจด้วยวิธีเคมีแบบเดิม และให้การรักษาได้รวดเร็วขึ้น
งานวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และงานสาธารณสุข สามารถนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในส่วน 4.
ออกแบบ หรือจำลองสภาวการณ์ต่างๆ เช่น การรับแรงสั่นสะเทือนของอาคารเมื่อเกิดแผ่นดินไหว
โดยคอมพิวเตอร์จะคำนวณและแสดงภาพสถานการณ์ใกล้เคียงความจริง รวมทั้งการใช้ควบคุม
และติดตามความก้าวหน้าของโครงการต่างๆ เช่น คนงาน เครื่องมือ ผลการทำงาน
งานวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม สถาปนิกและวิศวกรสามารถใช้คอมพิวเตอร์ในการ 5.
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบทบาทและหน้าที่ของหน่วยงานนั้นๆ เช่น กระทรวงศึกษาธิการ มีการใช้ระบบ
ประชุมทางไกลผ่านคอมพิวเตอร์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้จัดระบบเครือข่าย
อินเตอร์เน็ต เพื่อเชื่อมโยงไปยังสถาบันต่างๆ กรมสรรพากร ใช้ในการจัดเก็บภาษี บันทึกการเสียภาษี
เป็นต้นงานราชการ เป็นหน่วยงานที่มีการใช้คอมพิวเตอร์มากที่สุด โดยมีการใช้หลายรูปแบบ บทบาทและประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)